มธ.4:18-22

บางครั้งเราอาจจะสับสนเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ของเรากับสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือจะทำอะไรเราคือผู้ที่ติดตามองค์พระเยซูคริสต์

พระเยซูดำเนินไปตามชายหาดและเรียกให้เปโตรและอันดรูว์ตามพระเยซูมา และเขาทั้งสองก็ตามพระเยซูไป ในชีวิตเราเรามักจะทำสิ่งที่ตรงข้าม คือตามชีวิตของเราก่อนที่จะตามพระเยซู

ดูเหมือนเป็นข้อเสนอของพระเยซูให้ติดตามพระองค์ไป เราอาจจะไม่เข้าใจว่าการติดตามพระเยซูสำคัญแค่ไหนเพราะเราไม่ได้พบพระองค์ต่อหน้าเรา แม้แต่คนหาปลา นักปฏิวัติหรือคนเก็บภาษีก็พร้อมที่จะติดตามพระเยซูทันทีที่พระองค์ทรงเรียกเขา

การที่พระเยซูให้เราติดตามพระองค์ไม่ใช่ข้อเสนอ แต่เป็นคำสั่งของผู้ที่สร้างเราให้มาให้ติดตามพระองค์

ในสมัยของพระเยซูนั้นมีผู้ที่กระหายหาพระเจ้าและติดตามพระอาจารย์เพื่อที่จะรับใช้และศึกษาเพราะเชื่อว่าจะสามารถใกล้ชิดพระเจ้าผ่านพระอาจารย์ได้ เขาจะเรียนรู้และกระทำตัวเหมือนพระอาจารย์

พระเยซูเป็นดั่งเช่นพระอาจารย์ในจิตวิญญาณของเรา เรามีความยินดีที่ได้รับใช้พระองค์ และอีกไม่นานเราก็จะเป็นเหมือนพระเยซู พูดเหมือนพระเยซู กระทำเหมือนพระเยซู

“จงตามเรามา” การเรียกเปโตรและอันดรูว์ ในภาษากรีกหมายถึง การมีความปรารถนาติดตามคนผู้นั้นอย่างแรงกล้า หลายครั้งเราไม่ได้สนใจพระเยซูแต่สนใจตัวเราเองมากกว่า เราไม่ได้ติดตามพระองค์แต่เหมือนกับวิ่งวนอยู่รอบพระองค์มากกว่า เรามองถึงปัญหาและอุปสรรค์ให้มาปิดบังการติดตามพระองค์

“ตามเรามา” การเรียกของพระองค์อีกครั้งหนึ่งกับยากอบและยอห์น ในภาษากรีกหมายถึง การที่เหลียวมองไปข้างหลังแล้วพบว่ามีคนตามพระองค์ เปรียบเหมือนพระองค์เป็นดั่งผู้ที่กรุยทางข้างหน้าของเรา

การติดตามพระเยซูนั้นจึงหมายถึง การปรารถนาติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิดและให้พระองค์นำหน้าเราอยู่เสมอ

พระเยซูกำลังเดินไปหาคน การที่เราติดตามพระเยซูก็หมายถึงเราต้องติดตามพระองค์อย่างแรงกล้า เป็นเหมือนพระองค์ไปหาคนเพื่อจะตามคนกลับมาเพื่อรับความรอด และเมื่อพระองค์เหลียวหลังมา พระองค์ก็จะพบว่าเรานั้นตามพระองค์อยู่

สิ่งสำคัญในการติดตามพระเยซูคือแห อะไรคือแหในชีวิตของเรา คำว่า “แต่” เสมือนเป็นแหของชีวิตเรา ซึ่งเป็นเหมือนอุปสรรค์ที่จะไม่ให้เรานั้นติดตามพระเยซู เราต้องปล่อยทิ้งแหนั้นและติดตามพระเยซู การติดตามพระเยซูจึงต้องปฏิเสธตัวเองแบกกางเขนและตามพระองค์ไป ผู้ที่ติดตามพระองค์คือผู้ที่แบกกางเขนของพระองค์ไม่ใช่ผู้ที่แบกแหของตัวเอง