มัทธิว 25:14-30

 

บริบทตอนนี้เป็นเรื่องราวที่พระเยซูตอบคำถามสาวกว่ายุคสุดท้ายเป็นเช่นกัน

คริสเตียนทุกคนเป็นลูกของพระองค์และทุกคนก็เป็นผู้รับใช้ของพระองค์เช่นเดียวกัน

พระเจ้าทรงห่วงใยทรัพย์สินของพระองค์และทรัพย์สินของพระองค์นั้นก็คือจิตวิญญาณของมนุษย์ พระองค์จึงให้ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องห่วงใยจิตวิญญาณทุกๆ ดวง

เพื่อให้งานของพระองค์สำเร็จ พระเจ้าได้มอบตะลันต์ (talent) ให้กับผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคน

ทุกคนได้ตะลันต์ที่แตกต่างกัน พระเจ้ามิได้คาดหวังให้แต่ละคนเกิดผลเท่าเทียมกัน แต่พระองค์อยากให้เราตั้งใจใช้ตะลันต์ในงานของพระองค์

ความตั้งใจเพื่อพระองค์เป็นสิ่งที่พระเจ้าปรารถนา และมันจะไม่สูญเปล่า

พระเจ้าคาดหวังให้เราทำงานอย่างทุ่มเทโดยไม่รอช้า ท่ามกลางความสิ้นหวัง คริสเตียนต้องเป็นความสว่างโดยไม่รอช้า

กำไรในที่นี้หมายถึงอะไร

  1. เติบโตในฐานะคริสเตียน
  2. ดูแลพี่น้องที่หลังหาย หรือไม่เติบโต
  3. ขยายแผ่นดินของพระเจ้า

วันพิพากษาจะมาถึงอย่างแน่นอน เราทุกคนต้องขึ้นให้การแก่พระองค์

เราต้องไม่ลืมว่ากำไรที่ได้มาไม่ได้มาจากความสามารถของเรา พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เกิดผล อย่าทะนงตัว

จุดหมายปลายทางของผู้ที่สัตย์ซื่อในตะลันต์คือแผ่นดินนิรันดร์

หลายคนทำงานของพระเจ้าไม่สำเร็จเพราะเอาเงินนำหน้างานของพระองค์

สิ่งที่ต้องคิดอย่างแรกในงานของพระเจ้าไม่ใช่เงิน แต่เป็นตัวเราเอง

คนชมของพระเจ้า ระหว่างคนที่ได้กำไร 5 ตะลันต์และ 2 ตะลันต์ไม่แตกต่างกัน ขณะที่โลกวัดคนที่ผลงาน แต่พระเจ้าวัดที่ความตั้งใจของเขามากกว่าผลงาน

อย่าเปรียบเทียบผลงานกับผู้อื่น พระเจ้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสิน

ปริมาณไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าทรงใช้วัดความสำเร็จของการรับใช้

การฝังดินอาจหมายความว่า เอาความสามารถที่พระเจ้าให้มาไปทำงานทางโลก จนไม่มีเหลือให้กับงานของพระเจ้า

ในธรรมเนียมในสมัยนั้น การเอาของมีค่าไปฝังดิน หากมีผู้ใดขโมยไป ทาสนั้นไม่ต้องรับผิดชอบ

คำอุปมานี้ชี้ชัดเจนว่า เจ้านายยกตะลันต์ทั้งหมดทั้งต้นทุนและกำไรคืนให้แก่ผู้รับใช้ พระเจ้าปรารถนาที่จะอวยพรเราโดยมอบตะลันต์ให้เรา